Bike Trip explore the Neighborhood Then and Now

ปั่นย้อนรอยดูบ้านป้าอยู่และบึงบัวในอดีตเทียบกับปัจจุบัน และการพัฒนาพื้นที่สีเขียวริมคลองบึงบัว

อย่างที่เราเคยเล่าถึงความเป็นมาของบ้านป้าอยู่ในอดีตให้ได้พอทราบไปแล้วบ้าง วันนี้จะชวนทุกคนลุกขึ้นมาปั่นจักรยานสำรวจบึงบัวผ่านภาพถ่ายเทียบอดีตกับปัจจุบันกันครับ

ข้อมูลเบื้องต้น

  • สำหรับแขกที่พักให้ยืมจักรยานฟรี ส่วนบุคคลภายนอกเช่าปั่น ชม.ละ 20 บาท
  • ใช้เวลาปั่นโดยประมาณ 1.30 ชม. ถึง 2 ชม. แล้วแต่บุคคลและระยะเวลาในการแวะพักจุดต่างๆ
  • ระยะทางต่อรอบโดยประมาณ 5 กม.  ปั่นตามเส้นประสีแดง เส้นทางช่วงแรกจะเป็นทางปั่นเลียบคลองบึงบัว จะใช้ถนนร่วมกับมอเตอรไซต์ ปั่นด้วยความระมัดระวัง จากนั้นจะเป็นการปั่นบนฟุตบาท ตามถนนหลัก ช่วงถนนเจ้าคุณทหารและคุ้มเกล้า เพื่อความปลอดภัย
หน้าบ้านป้าอยู่

เราเริ่มต้นกันที่บ้านป้าอยู่ เวลาที่แนะนำและเหมาะสมคือช่วงเวลาเย็นประมาณ 16.00 เป็นต้นไป ในการออกสตาร์ทเดินทางไปยังจุดแวะพักแรกซึ่งไกลมากๆๆ ใช้เวลาปั่น 120 วินาที ฮ่า ก็จะถึงเจดีย์ศรีปทุมมงคล ณ วัดบึงบัว

เจดีย์ศรีปทุมมงคล

ภายในองค์เจดีย์จะเป็นที่ประดิษฐ์สถานของพระบรมสารีริกธาตุ ที่เปิดให้พุทธศาสนิกชนและบุคคลทั่วไปได้สักการะขอพร  ซึ่งตัวเจดีย์ถูกสร้างขึ้นช่วงปี พ.ศ.๒๕๕๐ โดยความตั้งใจของหลวงพ่อ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน พระครูศรีปทุมมาภินันท์ โดยตัวเจดีย์ตั้งอยู่ริมคลองบึงบัว ซึ่งแต่เดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่โล่งกว้างมีคลองบึงบัวกั้นระหว่างพื้นที่ฝั่งวัดกับพื้นที่เกษตรกรรมฝั่งตรงข้าม เรามาตามดูกันว่าผ่านไป ๕๐ ปี พื้นที่แห่งนี้จะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน

ภาพถ่ายน้องสาวป้าอยู่ที่ยืนคู่กับลูกชาย โดยมีฉากหลังเป็นโบถส์ให้เป็นจุดสังเกต

จุดที่ 1 บริเวณท่าน้ำหน้าวัด

จากภาพถ่ายน้องสาวป้าอยู่ที่ยืนคู่กับลูกชาย เทียบกับปัจจุบันในมุมที่่ใกล้เคียงกัน จุดสังเกตคือโบสถ์ด้านหลังซึ่งจำไม่ได้แน่ชัดว่าเริ่มสร้างใน พ.ศ. ใดกันแน่ แต่คาดคะเนได้ว่าอยู่ในช่วง พ.ศ. ๒๕๐๐ ต้นๆ กินเวลาสร้างหลายปี สมัยนั้นใครมีกำลังทรัพย์ก็ทำบุญบริจาคเป็นเงินทอง ส่วนใครไม่มีกำลังทรัพย์มากพอก็จะลงมือลงแรงช่วยกันทำตามกำลังศรัทธา ต้นโพธิ์ได้ถูกถอดย้ายออกไประหว่างการดำเนินการสร้างองค์เจดีย์

รูปงานยกช่อฟ้าอุโบสถ วัดบึงบัว

 

จุดที่ 2 บริเวณตีนสะพานข้ามคลองบึงบัว

จากภาพถ่ายในอดีตเป็นภาพถ่ายสะพานข้ามคลองบึงบัว เป็นสะพานไม้ขนาดเล็ก ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าสะพานได้ถูกก่อสร้างใหม่เป็นสะพานปูนเผื่อรองรับการสัญจรที่มากขึ้นของคนฝั่งชุมชนข้ามไปทำงานฝั่งนิคมอุตสาหกรรม โดยตั้งชื่อตามหลวงพ่อ เจ้าอาวาสวัดบึงบัวรูปก่อนหน้านี้คือ พระครูวิบูลย์ ปัญญาธร (หลวงพ่อชิ้น)

ภาพสะพานข้ามคลองในอดีตกับปัจจุบัน
งานแห่พัดยศ พระครูวิบูลย์ ปัญญาธร หรือ หลวงพ่อชิ้น เจ้าอาวาสวัดบึงบัว รูปก่อน
ภาพถ่ายจากจุดเดียวกันจะมองเห็นเพิงร้านก๋วยเตี๋ยวป้าอยู่ในอดีต

จุดที่ 3 บริเวณท่าน้ำทางเดินริมคลองหน้าวัด

บริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งศาลาท่าน้ำหน้าวัดสำหรับนั่งพัก ขึ้นลงเรือที่สัญจรมาขึ้นที่หน้าวัด ฉากหลังจะมองเห็นเพิงจากร้านก๋วยเตี๋ยวป้าอยู่ตั้งอยู่นั่นเอง

 

ถ่ายบริเวณท่าน้ำหน้าวัดเห็นเพิงร้านก๋วยเตี๋ยวป้าอยู่ด้านหลัง

 

ภาพถ่ายจากตรงข้ามฝั่งคลองในอดีตคณะลิเกกำลังขนย้ายของกลับบ้าน
สามแยกคลองบึงบัวตัดกับลำลางสาธารณะเชื่องคลองสี่

หลังจากย้อนอดีตกับบ้านป้าอยู่และวัดบึงบัวแล้ว เรามูฟออนไปกันที่เส้นทางปั่นเลียบคลองบึงบัว ชมวิถึชีวิต พื้นที่สีเขียวและการอาศัยอยู่ร่วมกันของชุมชนและเขตอุตสาหกรรม

พนักงานในชุดยูนิฟอร์มข้ามคลองไปทำงานฝั่งนิคม

พื้นที่สีเขียวที่ถูกรักษาและพัฒนามองเห็นคุณค่าของธรรมชาติของคนในชุมชน

ตลอดเส้นทางเลียบคลองบึงบัวจะเห็นถึงความสวยงาม ความร่มรื่นของต้นไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติและคณะกรรมการชุมชนที่ร่วมกับปลูกขึ้นมาเพิ่มเติม ร่วมทั้งพื้นที่ว่างริมตลิ่งที่คนในชุมชนอาศัยเป็นแปลงเกษตรปลูกผักสวนครัวไว้กินและเก็บขาย หารายได้พิเศษ

ทิวต้นสนริมคลองที่คณะกรรมการชุนชนปลูกและดูแลรักษาให้ร่มเงายามเย็น

 

 

ภาพการปลูกต้นไม้ของชุมชนร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกปี ๒๕๖๑ เทียบกับ ปี ๒๕๖๕

 

สะพานขาว

ปั่นเลียบคลองมาเรื่อยๆ  จะพบกับต้นทองอุไรและทิวต้นไม้ที่คนในชุมชนกับหน่วยงานภายนอกร่วมกันปลูกเมื่อปี ๒๕๖๑ ผ่านไป ๔ ปีต้นไม้สูงใหญ่ขึ้นมาก จุดนี้ถือเป็นจุดสังเกตให้เราเตรียมตัวเปลี่ยนเส้นทางเลี้ยวขวาข้ามคลองที่สะพานขาว เพื่อไปยังจุดแวะพักของเราต่อไปคือแคมป์นายพลฟิชชิ่งพาร์ค เราจะแวะดื่มน้ำและชมธรรมชาติผ่อนคลายกันที่จุดนี้ก่อนเดินทางต่อ

จุดแวะพักบ่อตกปลาแคมป์นายพลฟิชชิ่ง

บ่อปลาที่เป็นพื้นที่เชิงเกษตรกรรมที่หลงเหลือไม่กี่แห่งของชุมชน ซ่อนอยู่ทามกลามเขตอุตสาหกรรมและชุมชน กลายเป็นพื้นที่สีเขียวแห่งใหญ่ของชุมชนให้ได้ชื่นชน ศึกษาธรรมชาติ

ศึกษาธรรมชาติ ดูนกแปลก ที่ไม่ได้เห็นในเมืองใหญ่

เอาหล่ะครับ ถ้ามาถึงจุดนี้ก็ถือว่ามาได้เกือบครึ่งทางของเส้นทางปั่นแล้ว โอกาสหน้าเราจะมาอัพเดตเส้นทางและจุดแวะพักพร้อมเรื่องราวต่างๆเพิ่มเติมนะครับ

1 thoughts on “Bike Trip explore the Neighborhood Then and Now

  1. Pingback: Sawasdee! - Baanpayoo

Comments are closed.